ยิ่งคิดเรื่องงานการเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพราะแค่ทำกิจกรรมหรือเข้าผู้เข้าคนอาจจะยังไม่พอต่อการหาการทำงาน แต่การมีความช่ำชองทำงานและการฝึกหัดงานจะช่วยให้เราหางานได้ง่ายมากขึ้น
บทความพวก Student guide ทั่วไป อาจจะเสนอแนะว่าเราต้องหาหอพักยังไง ใช้เงินเช่นไร ทำกับข้าวอะไรเวลาไปอยู่วิทยาลัย หาการงานนอกเวลาเช่นใด แต่ไม่มีใครบอกให้เราพิจารณาถึง สิ่งที่เราจะทำหลังจากจบการศึกษา ข้อแนะนำ นี้เราอาจได้ยินมาแล้วเป็นร้อยๆ ครั้ง แต่เราได้ระลึกมันอย่างจริงจังหรือเปล่า นักเรียนโดยมากมักจะมองข้ามสิ่งนี้ไปเพราะให้ความสลักสำคัญกับสิ่งที่อยู่ข้างหน้าอย่างเช่น การเรียนหนังสือ การสอบ กิจกรรม งานเลี้ยง ปาร์ตี้ จนเวลาล่วงเลยไปถึงปี 3 ถึงเริ่มปวดศรีษะว่าจะฝึกงานที่ไหนดี พอถึงตอนนั้นก็ได้แต่ปล่อยให้ชะตาพาไป แล้วมันดีกับตัวเราจริงๆ หรือเปล่า การทำกิจกรรมชมรมเยอะๆ จะดีกับ Resume ของเราจริงหรือไม่ ฝากไว้ให้คิด
หลายๆ คนคิดสนับสนุนตัวเองว่าชีวิตจะต้องโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ สิ่งที่เราจะต้องทำก็แค่เขียน Resume ให้ดูดีที่สุด อัดกิจกรรมที่เคยทำทั้งหมดทั้งตัวใส่ลงไป แต่นั่นเป็นทัศนคติที่ผิดถนัด นายจ้างต่างๆ ไม่ใยดีหรอกว่าคุณได้รับรางวัลออกแบบโลโก้ หรือเข้าร่วมร่วมชุมนุมชมรมกี่พันครั้ง สิ่งที่เขาทั้งหลายสนใจคือ “ประสบการณ์ทำงาน” ตะหาก ซึ่งหากเราไม่มีความเชี่ยวชาญเข้าทำงานที่เป็นต่อบุคคลอื่นตั้งแต่ตอนเรียน ก็อาจทำเอาเราเสียโอกาสใหม่ๆ ไปอย่างโชคร้าย แถมยังต้องเสียเวล่ำเวลายิ่งกว่าเดิมเพื่อหาประสบการณ์เข้าทำงานเพิ่ม แทนที่จะเริ่มต้นทำการทำงานได้เลยทันทีทันใดหลังจบการศึกษา
ด้วยเหตุนั้นรีบหาความเชี่ยวชาญเข้าทำงานไว้ตั้งแต่ตอนศึกษาเล่าเรียน วางแผนการตั้งแต่เริ่มเข้าปี 1 เลยว่าต้องการทำอะไร แล้วใช้เวลาช่วงปิดภาคเรียนไปฝึกงานในที่ต่างๆ ตามที่จะทำได้ เพื่อให้รู้ว่างานแบบไหนที่เราชอบ เพื่อนหลายๆ คนพบว่าการไปฝึกงานแค่ตอนปี 3 นั้นไม่เพียงพอ เพราะไปเจองานที่ไม่ชอบแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องเสี่ยงดวงใหม่ภายหลังสำเร็จการศึกษา แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้เจอการงานที่ชมชอบอยู่ดี แล้วเราจะปล่อยให้ชีวิตเราเป็นไปตาม ดวง หรือจะเลือกเส้นทางของชีวิตด้วยตัวเราเองดีล่ะ
การฝึกหัดงานต่างๆ นี้ นอกจากช่วยให้เราได้รับรู้การทำงานจริง รู้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบอะไร ได้ Connection คนในกลุ่ม ยังช่วยให้เรามีความเชี่ยวชาญมากรอกใน Resume ทำให้เราเป็นต่อเด็กจบใหม่คนอื่นๆ ด้วย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่อยากจะชี้ทาง ให้น้องๆ ที่เพิ่งเข้าวิทยาลัยทุกๆ คน จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายทีหลังแบบพี่ว่าทำไมเราถึงไม่ทำแบบนี้ตั้งแต่ตอนศึกษาเล่าเรียน
อีกคำถามหนึ่งก็คือ ทดลองงานตอนที่เรียนอยู่ต่างชาติได้ไหม และทดลองงานอะไร ถึงจะได้ประสบการณ์การทำงาน ลองอ่าน เรื่อง งานอะไรบ้าง (ที่ไม่ใช่งานเสริ์ฟ)ที่ทำได้ตอนที่อยู่เมืองนอก แล้วจะได้ไม่ต้องมานั่งต้อยติ่งว่ารู้งี้ทำอย่างงี้แต่แรกดีกว่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น